ใครเก็บของตอน KTC ราคาต่ำกว่าร้อยบาท

Last updated: 18 ม.ค. 2561 |

"KTC รูดต่อ 6% วิตกธปท.คุมเข้มบัตรเครดิตทำรายได้หด"

นี้คือหัวข้อข่าวจากหนังสือพิมพ์แห่งหนึ่งเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2017 สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนั้นทำให้นักลงทุนจำนวนมากต่างตั้งคำถามว่า "ใกล้จะถึงกลียุคของหุ้นกลุ่มบัตรเครดิตแล้วหรือ ?" ไม่ได้มีเพียงแค่หนังสือพิมพ์แห่งนี้เจ้าเดียว แต่สื่อหลายเจ้าต่างก็นำเสนอข่าวนี้กันอย่างเมามัน

แต่ตอนนี้ก็อย่างที่เราเห็น KTC เพิ่ง All Time High ไปไม่นานนัก และยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดที่ 200 บาทเลยด้วย แถมใช้เวลาเพียงแค่ครึ่งปีเท่านั้นเอง

ราคาหุ้น KTC ล่าสุด

สิ่งที่หลายคนกลัวกันในตอนนั้นคืองบกำไรขาดทุน Q2/60 จะออกมาแย่ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าการที่แบงค์ชาติออกมาคุมเข้มการอนุมัติบัตรเครดิตจะส่งผลต่อ KTC และ AEONTS แต่เรามาดูที่งบ Q2 ที่ออกมากันครับ

รายได้เพิ่มขึ้นจาก 3,965 ล้านบาท เป็น 4,097 ล้านบาท

และกำไรสุทธิ เพิ่มขึ้นจาก 733 ล้านบาท เป็น 846 ล้านบาท (ทั้งรายได้และกำไร คือของงวด Q1/60 และ Q2/60 ตามลำดับ)

ทั้งรายได้และกำไรสุทธิมีการเติบโตขึ้นในทิศทางเดียวกัน มาจากฐานลูกค้าที่เพิ่มขึ้น รวมถึงต้นทุนดอกเบี้ยที่ต่ำลง จึงทำให้กำไรสุทธิดีขึ้นกว่าที่หลายฝ่ายคาดไว้มาก และราคาหุ้นก็ตอบสนองต่อผลกำไรที่เพิ่มขึ้นด้วย ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นจากจุดต่ำสุดที่ 95 บาท จนล่าสุดตอนนี้อยู่ที่ 232 บาท

แล้วเราจะจัดการสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดแบบนี้ได้ยังไง

สิ่งที่คนกังวลมากสุดในเวลานั้นคือกำไร Q2/60 ที่จะแย่ลง แต่เมื่องบออกมา ในคำอธิบายและวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการได้บอกถึงผลกระทบจากมาตรการของธนาคารแห่งประเทศไทยที่อาจจะส่งผลต่อบริษัท KTC ไว้ด้วย โดยสรุปก็คือ ส่งผลต่อการขยายฐานลูกค้าในอนาคตบ้าง แต่ฐานลูกค้าที่มีจะยังไม่ได้รับผลกระทบมากนัก คนที่ไม่ได้อ่านคำอธิบายนี้จะไม่มีทางรู้ได้เลยว่า KTC ไม่ได้มีอนาคตมืดหม่นขนาดนั้น แถมในไตรมาส 2 บริษัทยังมีฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นอีกต่างหาก

จุดที่ลูกศรสีฟ้าชี้อยู่ คือช่วงเวลาที่งบไตรมาส 2/60 ประกาศออกมา ซึ่งเป็นช่วงที่ใกล้จุดต่ำสุดของราคาหุ้น KTC อย่างน่าประหลาด

การจะรับมือกับเหตุการณ์แบบนี้อีกในอนาคต สิ่งสำคัญคือการอ่าน และหาข้อมูลอย่างละเอียด ลองนึกถึงตอนซื้อบ้านนะครับ ร้อยทั้งร้อยจะเดินไปตรวจทุกซอกทุกมุมของบ้าน (ดูเสาเข็มได้คงดูไปแล้ว) แต่ทำไมกับหุ้นซึ่งบางคนมีเงินลงทุนหลายล้านบาท กลับใช้เวลาดูเพียงแค่ไม่กี่นาทีเท่านั้น คนที่เก็บ KTC ในราคาต่ำกว่าร้อยบาท จึงเป็นคนที่ใช้เวลาศึกษามันมากพอ และวันนี้กาลเวลาก็ได้พิสูจน์แล้วว่า เขาคิดถูก

KTC จะไม่ใช่หุ้นตัวแรกและตัวสุดท้ายที่จะมีเหตุการณ์ลักษณะนี้อีก ทุกครั้งที่เกิดวิกฤติจะมีโอกาสซ่อนอยู่ และผู้ที่จะได้รับโอกาสก็ต้องมีความพยายามที่คู่ควรกับมันด้วยเช่นกัน

แหล่งอ้างอิง