Last updated: 2018-06-25 |
กราฟหุ้น เป็นสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเก็บข้อมูลของราคาหุ้นในรูปแบบของรูปภาพ ซึ่งรูปแบบที่นักลงทุนมักเห็นกันบ่อยที่สุดจะมีอยู่สองประเภท คือกราฟเส้น และกราฟแท่งเทียน โดยมักปรากฎอยู่ตามสื่อภาพยนตร์หรือสื่อโฆษณาอยู่บ่อยๆ ภาพที่เห็นก็มักจะเป็น ใครสักคนมองดูกราฟ แล้วเข้าซื้อ ผ่านไปไม่กี่วินาทีราคาก็ขึ้น ! ตลาดหุ้นดูเป็นของง่ายยิ่งกว่าปอกกล้วย (ทั้งที่จริงกว่าจะได้กำไรนี่เลือดตาแทบกระเด็น)
ตัวอย่างของกราฟหุ้น ด้านบนคือกราฟราคาแบบเส้น ส่วนด้านล่างคือกราฟราคาแบบแท่งเทียน
ส่วนการลงทุนระยะยาว เราอาจนึกถึงนักลงทุนสักคนที่ต้องดูงบการเงิน ดูแล้วดูอีก ไปเยี่ยมชมธุรกิจ สัมภาษณ์ผู้บริหาร คิดแล้วคิดอีกกว่าจะใส่เงินทั้งหมดที่มีไปกับหุ้นตัวนั้น ถือนานเป็นปีเพื่อรอคอยการลงทุนนั้นผลิดอกออกผล ก่อนจะสามารถทำกำไรได้อย่างงามในท้ายที่สุด
ดูๆ แล้วทั้งสองอย่างนี้มีความตรงข้ามกันอย่างสุดขั้ว และแทบไม่มีทางเลยที่กราฟหุ้นกับการลงทุนระยะยาวจะไปด้วยกันได้
แต่ละอย่างมีข้อดีข้อเสีย
ยังไงก็ตาม การใช้กราฟหุ้นเพียงอย่างเดียวในการซื้อขาย ก็มีจุดอ่อนของมันอยู่ เพราะเราจะไม่มีทางรู้ได้เลยว่าหุ้นตัวที่เข้าซื้อนั้น เป็นหุ้นของบริษัทที่ดีหรือไม่ดี หรือถ้าไม่มีเวลาติดตามตลาดหุ้นมากนัก การซื้อขายในระยะเวลาสั้นๆ อาจส่งผลให้เราขาดทุนได้ เพราะไม่ได้เฝ้าตลาดอย่างใกล้ชิด
ขณะที่การลงทุนระยะยาว จุดอ่อนของวิธีการนี้คือ "จังหวะเวลา" เพราะนักลงทุนไม่อาจรู้ได้เลยว่าอีกนานแค่ไหนกว่าราคาจะขึ้น ช่วงที่เราซื้อหุ้นตัวนั้นๆ แม้จะพื้นฐานดี กำไรของธุรกิจเติบโต แต่ถ้าตลาดหุ้นยังไม่เห็นมูลค่าที่ซ่อนอยู่ ก็อาจต้องใช้เวลานานกว่าที่ราคาหุ้นจะวิ่งขึ้นไปเพื่อสะท้อนมูลค่าที่แท้จริงได้
จะเห็นได้ว่า ข้อเสียของการลงทุนทั้งสองวิธีนั้นต่างกันมาก และแต่ละวิธีนั้นก็สามารถอุดรอยรั่วซึ่งกันและกันได้เป็นอย่างดี !
ลงทุนระยะยาวด้วยกราฟ
แผนภูมิที่เห็นคือรายได้และกำไรสุทธิย้อนหลัง 5 ปี ของบริษัทอสังหาริมทรัพย์แห่งหนึ่งในช่วงปี 2550 หากวิเคราะห์เพียงแค่รายได้และกำไร เราจะเห็นว่ามีการเติบโตขึ้นอย่างมาก คนที่สนใจลงทุนระยะยาวย่อมต้องมีหุ้นตัวนี้อยู่ในใจด้วยแน่ๆ
แต่ถ้าเราใช้กราฟหุ้นประกอบการวิเคราะห์ด้วย (รูปด้านบน) จะเห็นได้ชัดว่าล่าสุด (ฝั่งขวามือ) ราคากำลังลดลงอย่างต่อเนื่อง มีแนวโน้มที่เป็นขาลงอย่างชัดเจน หากเข้าลงทุนตอนนี้ ก็ไม่มีอะไรรับประกันได้ว่าราคาจะหยุดลงและพร้อมที่จะขึ้นเลย
หลังจากนั้นไม่นานนัก ราคาหุ้นก็ค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้นมาอีกครั้ง นักลงทุนที่ใช้กราฟหุ้นร่วมด้วย จะมองเห็นโอกาส เนื่องจากราคามีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นได้ และด้วยการใช้งบการเงินเข้ามาประกอบ จะทำให้เรารู้ว่าหุ้นตัวนี้ คือหุ้นที่พื้นฐานดี เหมาะสมแก่การลงทุนระยะยาว และราคาหุ้นกำลังพร้อมที่จะขึ้น ซึ่งหลังจากนั้นประมาณ 2-3 ปี ตลาดก็สะท้อนมูลค่าหุ้นที่เหมาะสมของบริษัทนี้ออกมา ด้วยการซื้อขายที่ราคาประมาณ 20 กว่าบาท
บทสรุป
จากคำถามที่ว่า "กราฟหุ้นใช้กับการลงทุนระยะยาวได้ไหม" คำตอบคือสามารถทำได้ เพราะทั้งสองวิธีต่างก็มีจุดแข็งและจุดอ่อนในตัวเอง ที่สามารถนำมาเสริมกันได้ รวมถึงปิดจุดอ่อนของวิธีการแต่ละแบบได้เป็นอย่างดี
ติดตามความรู้เพิ่มเติมได้ที่ FACEBOOK, LINE, WEBSITE
INVESTING.in.th -- Happy Investing