Last updated: 4 ก.ค. 2561 |
กองทุนดัชนี เป็นกองทุนรวมประเภทหนึ่งที่เน้นการลงทุนเชิงรับ (passive investment) มากกว่าการลงทุนเชิงรุก (active investment) โดยจะเน้นลงทุนในสินทรัพย์ให้ใกล้เคียงกับดัชนีที่อ้างอิงมากที่สุด เช่น หากเป็นกองทุนดัชนีที่อิงกับ SET50 ก็จะพยายามลงทุนในหุ้นแต่ละตัวให้สัดส่วนใกล้เคียงกับที่ดัชนีได้คำนวณไว้ เพื่อให้ได้ผลตอบแทนใกล้เคียงหรือเทียบเท่ากับดัชนีอ้างอิง
ดังนั้น index fund จึงเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำหรับการวางแผนทางการเงินที่แพร่หลายมาก เพราะข้อได้เปรียบสำคัญของมันก็คือ ค่าธรรมเนียมที่ต่ำ และยากที่กองทุนนี้จะเจ๊งได้ เนื่องจากลงทุนเลียนแบบตามดัชนีอ้างอิง (ลองนึกภาพว่าดัชนี SET50 ต้องพังทลายลงไป ประเทศเราอาจต้องล่มสลายก่อนถึงจะเกิดเหตุการณ์นี้ได้) อีกทั้งหากเราลงทุนด้วยระยะเวลาที่นานพอ ก็จะได้รับผลตอบแทนที่ใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยของตลาดหุ้นทั่วโลก หรือประมาณ 10% ต่อปี ด้วยผลตอบแทนระดับนี้ บวกกับระยะเวลาการถือหลายๆ ปี มันก็สามารถสร้างความมั่งคั่งได้ไม่ยากนัก
แต่กองทุนดัชนีไม่มีช้อเสียเลยหรือ ?
1. มันไม่ passive 100%
แม้กองทุนดัชนีจะเน้นการลงทุนเชิงรับ ซื้อตามดัชนีแบบไม่คิดชีวิต แต่ความเป็นจริงก็คือ มันเป็นเพียงการลงทุนเพื่อให้ "ใกล้เคียง" กับตัวดัชนีมากที่สุด อาจมีบางช่วงที่ผลตอบแทนเท่ากับดัชนี หรือบางช่วงอาจแย่กว่า หรือบางช่วงอาจดีกว่าก็ได้
การบริหารจัดการของแต่ละกองทุนดัชนีก็ส่งผลให้ performance ของกองทุนต่างกัน จากรูปตัวอย่างนี้ ทั้งสองเป็นกองทุนที่อิงดัชนี S&P500 ทั้งคู่ (เส้นฟ้าและเส้นน้ำเงิน ส่วนเส้นสีม่วงคือ S&P500) แต่ผลตอบแทนนั้นต่างกันมาก หากคิดย้อนหลังประมาณ 20 ปี กองทุนเส้นสีน้ำเงินทำผลตอบแทนได้ 260% ขณะที่กองทุนเส้นสีฟ้า ทำผลตอบแทนได้ 149%
2. ผลตอบแทน
อาจแย่กว่า benchmark
เพราะกองทุนรวมย่อมต้องเสียค่าธรรมเนียมเสมอ และค่าธรรมเนียมนี้้เองจะทำให้มูลค่ากองทุนลดลงไป จนทำให้ผลตอบแทนรวมของกองทุนนั้นแพ้ดัชนีอ้างอิงในที่สุด หากจะเลือกลงทุนใน index fund ก็ขอให้เลือกกองทุนที่มีค่าธรรมเนียมต่ำเข้าไว้
3. มันซื้อทั้งหุ้นที่ดี
และหุ้นที่ไม่ดี
เนื่องจาก index fund คือการเข้าซื้อหุ้นทุกตัวให้ใกล้เคียงกับดัชนีมากที่สุด ดังนั้นมันจึงรวมถึงหุ้นของบริษัทที่ไม่ดีด้วย แต่จุดอ่อนข้อนี้เราอาจแก้ไขได้ด้วยการซื้อกองทุนดัชนีที่อิงกับดัชนีที่รวมเฉพาะหุ้นแข็งแกร่งเอาไว้ เช่น อิงกับดัชนี SET50 หรือ SETHD (SET High Dividend) เป็นต้น
หากใครที่สนใจอ่านจุดอ่อนของกองทุนดัชนีฉบับเต็ม สามารถเข้าไปอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่ ยังไงก็ตามแต่ ข้อดีของ index fund ก็มีอีกมาก และยังเป็นเครื่องมือยอดนิยมที่คนใช้เพื่อวางแผนเกษียณ การที่เรารู้จุดอ่อนของแต่ละสินทรัพย์ไม่ได้หมายถึงให้เราเลิกลงทุนในสิ่งนั้น เพราะทุกอย่างย่อมมีจุดตายในตัวมันเอง แต่การที่รู้ข้อเสียของมัน จะทำให้เราวางแผนเพื่อรับมือกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้
อะไรที่แน่นอนก็ไม่แน่นอน แม้แต่ index fund ก็ตาม
ติดตามความรู้เพิ่มเติมได้ที่ FACEBOOK, LINE, WEBSITE
INVESTING.in.th -- Happy Investing
แหล่งอ้างอิง
Don't Buy Index Funds : https://seekingalpha.com/article/4054665-buy-index-funds?page=1