Last updated: 7 ก.ย. 2561 |
TRUE หรือ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ประกอบธุรกิจเครือข่ายโทรศัพท์ที่มีผู้ใช้งานมากเป็นอันดับ 2 ของประเทศ และยังมีธุรกิจอินเทอร์เน็ตบ้าน ทีวีดิจิทัล และอื่นๆ อีกมากมาย ปัจจุบันบริษัทมีมูลค่าตลาดราวๆ 2 แสนล้านบาทเข้าไปแล้ว
หุ้น TRUE นอกจากจะมีชื่อเสียงเรื่องความสามารถในการแข่งขันที่เอาชนะคู่แข่งอย่าง DTAC ได้ (เมื่อก่อน DTAC มีผู้ใช้งานมากเป็นอันดับ 2 แต่ภายหลังก็โดนทรูแซงขึ้นไป) ยังมีชื่อในเรื่องของผลประกอบการที่ขาดทุนหนักหลายปี หนี้สินที่สูงเมื่อเทียบกับส่วนทุน จนถึงขั้นมีหลายคนปรามาสว่าบริษัทนี้ไม่นานก็ล้ม แต่จนแล้วจนรอด TRUE ก็ยังยืนหยัดมาถึงปัจจุบันได้
แต่ข่าวช็อคที่เกิดขึ้นจนทำให้นักลงทุนต้องกลับมามองหุ้นตัวนี้อีกครั้งก็คือ บริษัทถูกศาลสั่งให้จ่ายค่าผิดสัญญาให้กับ TOT เป็นมูลค่ากว่า 9 หมื่นล้านบาท หรือเกือบ 20% ของสินทรัพย์รวมทั้งหมด
แล้วงบ
จะเป็นยังไง
ในตอนนี้กระบวนการทางกฎหมายยังไม่สิ้นสุด ทำให้ในส่วนของงบการเงินทรูจะยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่ราคาหุ้นเองก็ได้ตอบสนองต่อข่าวเป็นที่เรียบร้อย เพราะหุ้น TRUE ปรับตัวลดลงไปสูงสุดราวๆ 12% จนต่ำสุดที่ราคา 5.55 บาท ก่อนจะดีดกลับขึ้นมาปิดที่ 5.85 บาท (วันที่ 6 กันยายน 2561)
แต่ถ้าทรูต้องจ่ายค่าปรับจริงๆ ล่ะ งบการเงินจะเป็นอย่างไรบ้าง ?
ฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ของบล.เอเซียพลัส ได้ประเมินไว้ว่า worst case สำหรับทรูก็คือ ต้องจ่ายค่าปรับรวมกับดอกเบี้ย คิดเป็นเงินเกือบๆ 1 แสนล้านบาท ซึ่งถ้าเกิดขึ้นจริง รายการนี้จะถูกบันทึกอยู่ในงบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จ โดยอยู่ในส่วนของค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร ยกตัวอย่างเช่น หุ้น TPIPL ที่ก่อนหน้านี้เมื่อราวปี 2551 บริษัทได้ตั้งสำรองจ่ายค่าปรับเป็นจำนวนเงิน 6,900 ล้านบาท โดยใช้รายการบันทึกว่า "ค่าปรับ" ลงในงบการเงินดังรูป จนส่งผลให้ในไตรมาส 2 ปี 2551 บริษัทมีผลขาดทุนสุทธิ -6,824 ล้านบาท
และเมื่อผลการดำเนินงานขาดทุน ก็จะไปกระทบงบแสดงฐานะการเงินหรืองบดุลด้วย โดยกำไรสะสมที่อยู่ในส่วนของผู้ถือหุ้นก็จะลดลงไป สำหรับในกรณีของ TPIPL งบการเงินงวดไตรมาส 1 ปี 2551 บริษัทมีกำไรสะสมที่ยังไม่ได้จัดสรรอยู่ที่ 5,801 ล้านบาท แต่พอไตรมาส 2 กลับติดลบ -1,022 ล้านบาท ซึ่งก็มาจากการนำกำไรสะสมที่ยังไม่ได้จัดสรร หักลบกับขาดทุนสุทธิที่เกิดขึ้นในไตรมาสล่าสุดนั่นเอง
ถ้าเป็นงบ TRUE ล่ะ
เราลองมาจำลองงบการเงินของ TRUE กันบ้าง สมมติว่าบริษัทต้องจ่ายค่าปรับจริงๆ เป็นจำนวนเงินเกือบ 1 แสนล้านบาท จะส่งผลต่องบการเงินมากแค่ไหนกัน
จากบทวิเคราะห์ของบล.ฟินันเซีย ได้คาดการณ์ไว้ว่า TRUE จะมีรายได้และกำไรสุทธิในงวดปี 2018 อยู่ที่ 149,189 ล้านบาท และ 24,519 ล้านบาทตามลำดับ ดังนั้น หากทรูต้องจ่ายค่าปรับ 1 แสนล้านบาท ผลประกอบการคร่าวๆ ของบริษัท จะกลายเป็นขาดทุนสุทธิ 24,519 - 100,000 = -75,481 ล้านบาท
เมื่อมาดูที่งบแสดงฐานะการเงิน ในส่วนของกำไรสะสมที่อยู่ในส่วนของผู้ถือหุ้น บริษัทเองมีกำไรสะสมเป็นตัวเลขติดลบ ดังนั้นเราจึงเรียกมันว่าขาดทุนสะสม โดยงบการเงินล่าสุดนั้น TRUE มีขาดทุนสะสมราวๆ 16,066 ล้านบาท เมื่อรวมกับผลขาดทุนใหม่ที่เกิดขึ้น จะทำให้ขาดทุนสะสมของบริษัทกลายเป็น -16,066 + (-75,481) = -91,547 ล้านบาท
ดังนั้น ส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัท จากเดิมที่มีอยู่ 142,177 ล้านบาท ก็จะลดเหลือประมาณ 67,000 ล้านบาท และถ้างบการเงินรายการอื่นๆ ยังไม่เปลี่ยนแปลง อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนของบริษัทก็จะเพิ่มขึ้นจาก 2.46 เท่า เป็น 5.22 เท่าด้วย
หรือนี่คือ
จุดจบของ TRUE
แม้บริษัทอาจต้องจ่ายค่าปรับบักโกรก แต่ก็ใช่ว่าทรูจะถึงคราวกัลปาวสาน เพราะอย่าลืมว่า ธุรกิจของบริษัทก็ยังต้องดำเนินต่อไป ณเดชน์ก็ยังเป็นพรีเซนเตอร์ให้ทรูต่อไป เราก็ยังโทรศัพท์ผ่านเครือข่ายของทรูต่อไปเช่นกัน
แน่นอนว่า ในระยะสั้นราคาหุ้นย่อมได้รับแรงกดดันมหาศาล ไม่ว่าจะต้องจ่ายค่าปรับหรือไม่ก็ตาม แต่เมื่อพายุแห่งความไม่ชัดเจนผ่านพ้นไป ราคาจะต้องวิ่งไปหามูลค่าที่แท้จริงเสมอ
และทุกครั้งที่มีพายุ มันจะมีโอกาสซ่อนอยู่
ติดตามความรู้เพิ่มเติมได้ที่ FACEBOOK, LINE, WEBSITE
INVESTING.in.th — Happy Investing
แหล่งอ้างอิง
TRUE ข่าวลบถาโถม นาทีนี้โอกาสหรือความเสี่ยง! : http://www.efinancethai.com/HotStocks/HotStockMain.aspx?id=UXhhRmVPanJSY3M9&security=TRUE
สรุปข้อสนเทศบริษัทจดทะเบียน : https://www.set.or.th/set/factsheet.do?language=th&country=TH&symbol=true
บทวิเคราะห์จากบล.ฟินันเซีย : https://www.fnsyrus.com/uploads/research/180815TRUE2Q18.pdf
จับตา TRUE หลังโบรกฯเริ่มเชียร์ซื้อ แต่แนวโน้มยังขาดทุนต่อ : http://www.bidschart.com/news/6648
“เอเซียพลัส” แนะชะลอลงทุน TRUE คดีทีโอทีกดหุ้น : https://www.hoonsmart.com/archives/23504