Last updated: 11 ก.ย. 2561 |
นักลงทุนทุกคนล้วนเคย "ขายหมู" กันทั้งนั้น คำว่าขายหมู หมายถึงการที่เราซื้อหุ้นสักตัวหนึ่ง ขายมันออกไปเพื่อทำกำไร แต่หลังจากนั้นกลับวิ่งขึ้นจนหน้าหงาย ซึ่งหมูแต่ละคนนั้นก็ตัวใหญ่เล็กไม่เท่ากัน บางคนขายแล้ว ราคาขึ้นไปสัก 10-20% แต่บางคน ขายแล้วราคาขึ้นไปอีกหลายเด้งก็มี
กระทั่งนักลงทุนระดับโลกอย่างวอร์เรน บัฟเฟตต์ ก็เคยขายหมูหุ้น GEICO (อ่านบทความได้ที่นี่) และนักลงทุนชั้นเซียนอีกคนที่มีฝีมือไม่แพ้กัน ปีเตอร์ ลินช์ ผู้จัดการกองทุนที่ทำผลตอบแทนได้กว่า 29% ติดต่อกัน 13 ปี ก็ยังเคยขายหมูเหมือนเราๆ ท่านๆ ด้วย
หมูตัวนั้นชื่อ Home Depot แถมเป็นหมูตัวใหญ่ขนาด 1,300 เด้ง
หุ้น HOMD
ถ้าใครนึกภาพไม่ออกว่า Home Depot ทำธุรกิจอะไร ลองนึกถึง Homepro แล้วจะร้องอ๋อได้ทันที บริษัทนี้ประกอบธุรกิจร้านค้าปลีกอุปกรณ์ช่าง ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1979 โดย Bernie Marcus และ Arthur Blank แต่หลังจากนั้นเพียงแค่ 2 ปี บริษัทก็จดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ ของสหรัฐได้
การที่บริษัทที่เพิ่งก่อตั้งไม่นานแต่สามารถเข้าตลาดหุ้นได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะมันต้องเป็นกิจการที่เติบโตไวมากๆ ซึ่ง Home Depot เองก็เติบโตแบบติดจรวดเสียด้วย ปี 1979 รายได้ยังเป็น 0 แต่พอปี 1980 รายได้เพิ่มขึ้นเป็น 7 ล้านเหรียญ และพอถึงปี 1981 รายได้ก็โตขึ้นอีก 3 เท่า เป็น 22 ล้านเหรียญ
งบการเงินของ Home Depot ในปีแรกที่จดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์ กรอบหมายเลข 1 คือรายได้ และกรอบหมายเลข 2 คือกำไรขาดทุนสุทธิ (กดที่รูปเพื่อขยาย)
ตาไว
ดุจปิศาจ
ปีเตอร์ ลินช์ ซึ่งในขณะนั้นเป็นผู้จัดการกองทุน Fidelity Maggellan ผู้ชื่นชอบการลงทุนในหุ้นเติบโต มีหรือที่เขาจะไม่สังเกตเห็นหุ้นน้องใหม่ไฟแรงอย่าง Home Depot นี้ได้ จากบทสัมภาษณ์ที่เขาเคยให้กับ Forbes เขากล่าวว่าได้เข้าซื้อหุ้น HOMD ช่วงที่บริษัทยังมีร้านค้าเพียง 4 สาขาเท่านั้น ซึ่งตรงกับช่วงปี 1982 ดังนั้นราคาที่เขาเข้าซื้อจะอยู่ในช่วงระหว่าง $0.06-$0.30 (เป็นราคาที่ปรับแล้ว)
ราคาหุ้น Home Depot ที่คาดว่าเป็นช่วงที่ ปีเตอร์ ลินช์ เข้าลงทุน
มือลั่นกดขาย
สมมติว่าลินช์เข้าซื้อหุ้น HOMD ที่ราคากลางระหว่าง $0.06 และ $0.30 ก็จะอยู่ที่ประมาณ $0.20 ต่อหุ้น หลังจากนั้นเพียงปีเดียว ราคาหุ้นก็วิ่งขึ้นไปอีก 3 เท่า จนทำจุดสูงสุดที่ประมาณ 0.70 เหรียญ ซึ่งลินช์เองก็ตัดสินใจขายหุ้นที่บริเวณนี้ พร้อมเก็บกำไร 3 เด้งเข้ากระเป๋าไปเหนาะๆ
แต่ใครจะรู้เล่าว่านั่นคือการขายหมูครั้งใหญ่ในชีวิตของเขา เพราะถ้าลินช์เลือกที่จะถือหุ้น Home Depot ไปเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงปี 1990 (เป็นปีที่เขาเลิกบริหารกองทุนที่ Fidelity) ผลตอบแทนที่เขาได้รับจากหุ้นตัวนี้จะสูงถึง 25 เด้ง หรือถ้าเขาสามารถถือหุ้นตัวนี้มาได้จนถึงปัจจุบัน ผลตอบแทนจะเพิ่มขึ้นเป็น 1,300 เด้ง เพราะล่าสุดนั้นหุ้น HOMD (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น HD) มีราคาอยู่ที่เกือบ 200 เหรียญต่อหุ้นแล้ว
ราคาหุ้น Home Depot ที่ปัจจุบันใช้ตัวย่อว่า HD ราคาล่าสุดตอนนี้อยู่ที่ 210 เหรียญต่อหุ้นแล้ว
ขายหมู
ไม่ใช่เรื่องผิด
ลองคิดดูว่า สมมติวันนี้เราขายหุ้นอย่าง PTT ทิ้งไปที่ราคา 50 บาท แล้วผ่านไปอีกสัก 40 ปี ราคาหุ้นกลับขึ้นไปถึงหุ้นละ 50,000 บาท เราคงจะเอาหัวโขกกำแพงพร้อมน้ำตาเป็นแน่ แต่สิ่งใดที่เสียไปแล้ว มันไม่มีทางเอากลับคืนมาได้ ลินช์เองก็รู้ข้อนี้ดี เขาจึงไม่ติดใจอะไรกับการขายหมูหุ้น HOMD มากนัก ก่อนจะไล่ลาหาหุ้นเด้งตัวอื่นในตลาดต่อไป จนสร้างผลตอบแทนติดระดับโลก
หากเราลองดูกราฟ Home Depot จะเห็นว่าช่วงที่ลินช์ขายทิ้งไป (บริเวณกรอบสีฟ้า) ราคามันก็ปรับตัวลดลงพักใหญ่ๆ มองอีกมุมหนึ่ง การที่เขาขายหุ้นทิ้งก่อนที่จะลงก็ถือว่าเป็นจังหวะเวลาที่ดีมาก เพราะเขามีอิสระที่จะนำเงินไปลงทุนหุ้นตัวอื่นก็ได้ หรือจะเข้ามาซื้อหุ้น HOMD อีกครั้งก็ยังได้
เพราะฉะนั้น การขายหมูไม่ใช่เรื่องแปลก และนักลงทุนอย่างเราก็ไม่มีทางหนีพ้น สิ่งสำคัญกว่าคือ เมื่อเรารู้ตัวว่าขายหมูไปแล้ว เราจะทำอะไรต่อ จะซื้อกลับไหม ซื้อเมื่อไหร่ หรือหาตัวอื่นลงทุนแทน
ตราบใดที่เรายังมีสติและวิจารณญาณมากพอ ตลาดหุ้นก็พร้อมให้โอกาสทำเงินแก่เราเสมอ
ติดตามความรู้เพิ่มเติมได้ที่ FACEBOOK, LINE, WEBSITE
INVESTING.in.th — Happy Investing
แหล่งอ้างอิง
Annual Report Home Depot : http://ir.homedepot.com/financial-reports/annual-reports/archive
THE HOME IS WHERE OUR STORY BEGINS : https://corporate.homedepot.com/about/history
Peter Lynch : https://www.forbes.com/100-greatest-business-minds/person/peter-lynch
13 พ.ย. 2563
14 ส.ค. 2561
13 พ.ย. 2563