Last updated: 10 ต.ค. 2561 |
ในแต่ละปี จะมีหุ้นที่เข้าตลาดไซส์ใหญ่ๆ อย่างน้อยปีละ 1-2 ตัวเสมอ สำหรับปีนี้เป็นคิวของหุ้น OSP หรือ บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) ที่อยู่คู่ประเทศไทยมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งตัวธุรกิจที่เด่นๆ ของบริษัท ก็คือเครื่องดื่มชูกำลัง ที่คิดเป็นสัดส่วนเกือบ 80% ของรายได้ทั้งหมด ที่เรารู้จักกันดีก็คือ M-150 และลิโพนั่นเอง
บทความที่เกี่ยวข้อง : หุ้นโอสถสภา มีค่า PE เท่าไหร่
ซึ่งตลาดเครื่องดื่มชูกำลัง ก็ไม่ได้มีแต่ OSP เท่านั้นที่เป็นเจ้าตลาด ยังมีอีกรายหนึ่งซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่ไม่แพ้กัน และจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์มาแล้วสักระยะหนึ่งด้วย นั่นคือหุ้น CBG หรือคาราบาวกรุ๊ป แม้ทำธุรกิจเหมือนกัน แต่รายละเอียดย่อมต่างกันแน่นอน มาดูกันดีกว่าว่าถ้าเทียบกันหมัดต่อหมัดแล้ว แต่ละบริษัทมีอะไรที่โดดเด่นแตกต่างกันบ้า
ส่วนแบ่งตลาด
ฝั่งซ้ายมือคือส่วนแบ่งตลาดของ CBG และขวามือคือส่วนแบ่งตลาดของ OSP จากข้อมูลตั้งแต่ปี 2558-2560 เราจะเห็นว่าคาราบาวนั้นเริ่มมีส่วนแบ่งตลาดที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ใขณะที่ส่วนแบ่งตลาดของโอสถสภากลับลดลง (ส่วนแบ่งตลาดนี้เฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น) ถ้าในเรื่องนี้ หุ้น CBG เป็นฝ่ายชนะ
รายได้
ที่น่าตื่นตาตื่นใจกว่าก็คือ รายได้ของ CBG นั้นเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจาก 7.9 พันล้านในปี 2558 มาอยู่ที่เกือบๆ 1.3 หมื่นล้านในปี 2560 เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวในเวลา 2 ปี ส่วนทางโอสถสภา ปี 2560 มีรายได้ที่ลดลงเกือบๆ 20% เมื่อเทียบกับปี 2559 ในเรื่องของรายได้นั้น CBG ก็เป็นฝ่ายชนะอีกเช่นกัน
อัตรากำไรสุทธิ
เป็นอัตราส่วนที่ไว้ดูว่า ทุกๆ รายได้ 100 บาท บริษัทจะเหลือกำไรก้นกระเป๋าจริงๆ กี่บาท สำหรับ CBG นั้นปีล่าสุดมีอัตรากำไรสุทธิ 9.53% ซึ่งลดลงมาเรื่อยๆ ตั้งแต่ปี 2558 สวนทางกับโอสถสภา ที่แม้รายได้จะลดลง แต่อัตรากำไรสุทธิก็เพิ่มขึ้นทุกปีจนล่าสุดอยู่ที่ 11.2% ในเรื่องนี้ OSP เป็นฝ่ายชนะ
โดยสรุป
หุ้น CBG นั้นมีความโดดเด่นกว่า OSP ในแง่ของส่วนแบ่งตลาดและรายได้ แต่ด้อยกว่าในเรื่องของอัตรากำไรสุทธิที่ลดลง ซึ่งเป็นผลมาจากค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่เพิ่มขึ้นกว่า 30% ในปี 2560
แต่อย่างไรก็ตาม การเปรียบเทียบทั้งหมดนี้ไม่ได้หมายความว่าคาราบาวจะมีรายได้เพิ่มขึ้น หรือโอสถสภาจะมีรายได้ลดลง นักลงทุนจำเป็นต้องติดตามข้อมูลข่าวสารอย่างต่อเนื่อง ว่ากิจการทั้งสองมีแผนที่จะไปเติบโตที่ไหนอีกบ้าง อย่างคาราบาวเองก็สนใจการเติบโตในประเทศจีน และโอสถสภาเองก็สนใจการเติบโตในประเทศพม่า เป็นต้น
นี่คือหน้าที่ของนักลงทุนที่จะต้องตรวจสอบและทำการบ้านด้วยตนเอง
ติดตามความรู้เพิ่มเติมได้ที่ FACEBOOK, LINE, WEBSITE
INVESTING.in.th — Happy Investing
แหล่งอ้างอิง
หนังสือชี้ชวนตราสารทุน : https://market.sec.or.th/public/ipos/IPOSEQ01.aspx?TransID=195013&lang=th
สัมมนาพิเศษ
ไม่ว่าตลาดหุ้นจะแพงหรือถูก เราก็ยังหาหุ้นที่ดีได้เสมอด้วยการประเมินมูลค่าหุ้น แต่จะประเมินมูลค่ายังไงถึงจะเหมาะสม ประเมินยังไงให้เฉียบขาดและทำกำไรได้จริง พบคำตอบได้ที่สัมมนา FFTC102 รู้อะไรก็ไม่สู้รู้มูลค่า การประเมินมูลค่าหุ้น
ลงทะเบียนได้ที่ http://bit.ly/FFTC102 (เหลือ 10 ที่นั่งสุดท้าย)