Last updated: 26 พ.ย. 2561 |
ถ้าหากคำนิยามของคำว่าอัจฉริยะ คือการเข้าใจและสอนให้ผู้อื่นเข้าใจได้อย่างถ่องแท้ คุณ Aswath Damodaran ก็เหมาะสมกับคำๆ นี้มาก
คุณดาโมดารันอาจไม่ใช่นักลงทุนที่มีหนังสือภาษาไทยแปลออกมาให้อ่านมากนัก (ตอนนี้มีเพียงเล่มเดียวคือ การประเมินมูลค่าหุ้น ที่แปลมาจาก The Little Book of Valuation) แต่ในแวดวงศาสตร์แห่งการประเมินมูลค่า เขาได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในอาจารย์ที่มีฝีมืออันดับต้นๆ ที่สามารถสอนเรื่องยากให้คนเข้าใจได้อย่างงายดาย
และเขายังเป็นนักลงทุนผู้ซื้อหุ้น Apple ตั้งแต่ปี 1997 อีกด้วย
เขาเลือกหุ้น
ยังไง
เราน่าจะพอเดาได้ว่าคุณดาโมดารันต้องใช้การเลือกหุ้นด้วยปัจจัยพื้นฐานอย่างแน่นอน แต่เขาเองก็กล่าวว่า สิ่งที่เขาใช้นั้นค่อนข้างจะต่างจากนักลงทุนแบบเน้นคุณค่าส่วนใหญ่
ในมุมมองของเขามองว่า สิ่งที่ยากที่สุดในการประเมินมูลค่าหุ้นคือความแน่นอน ถ้าเป็นบริษัททั่วไป การดูประวัติผลกำไรย้อนหลังและกิจการที่ก่อตั้งมานาน จะช่วยให้ประเมินมูลค่าได้ง่าย แต่นั่นก็หมายความว่า หุ้นตัวดังกล่าวจะถูกนักลงทุนคนอื่นเห็นได้โดยง่ายเช่นกัน และยากที่จะหาหุ้นเหล่านั้นเจอก่อนคนอื่นได้ (จึงเป็นไปได้ว่า หนังสือ The Little Book of Valuation ที่เขาเขียน อาจจะเกี่ยวเนื่องกับวิธีที่เขาใช้ประเมินมูลค่าพอสมควร เพราะในเล่มนั้นยกตัวอย่างกระทั่งการ valuation หุ้นที่เพิ่งเข้าตลาด)
ดังนั้น การประเมินมูลค่าในหุ้นที่ไม่ได้วัดมูลค่าได้ง่ายนัก (เช่น หุ้นที่เพิ่งเข้าตลาด หรือมีความไม่แน่นอนสูง) จะทำให้นักลงทุนมีความได้เปรียบ แต่เหนือสิ่งอื่นใด มันต้องมาพร้อมการกระจายความเสี่ยงที่เหมาะสม เนื่องจากเรากำลังซื้อในสิ่งที่ไม่ได้มีความชัดเจนของข้อมูล 100%
เดิมพันกับ
สตีฟ จ็อบส์
ซึ่งการลงทุนในสิ่งที่ไม่แน่นอนนี้เห็นได้จากการที่เขาซื้อหุ้น Apple AAPL เมื่อปี 1997 ทุกคนต่างรู้ดีว่าเมื่อก่อนนั้น Apple เคยเกือบล้มละลายในช่วงที่คุณดาโมดารันเข้าซื้อหุ้น แม้ตอนนั้นจะมีสตีฟ จ็อบส์ แต่ผลกำไรในอดีตที่ลุ่มๆ ดอนๆ มันก็ทำให้การประเมินมูลค่าหุ้นตัวนี้เป็นสิ่งที่ยาก
แต่นี่คือสิ่งที่คุณดาโมดารันชื่นชอบและสร้างความได้เปรียบให้แก่เขามากกว่าคนอื่น (เพราะไม่มีใครสนหุ้น Apple ในเวลานั้นเสียเท่าไหร่) เขาจึงเข้าลงทุนเมื่อปี 1997 ที่ต้นทุนประมาณ 5 เหรียญต่อหุ้น (บริเวณเส้นสีฟ้า) ก่อนทีจะขายทั้งหมดออกไปเมื่อต้นปี 2012 ที่ราคาใกล้ๆ 600 เหรียญ (บริเวณเส้นสีชมพู ราคาที่เขียนในบทความคือก่อนการแตกหุ้น) คิดเป็นผลตอบแทน 120 เด้ง หรือเท่ากับ 37.60% ตลอดระยะเวลา 15 ปี (ยังไม่รวมเงินปันผล) จนกลายเป็นหนึ่งในหุ้นผู้ชนะที่ยิ่งใหญ่ของเขา
ไม้ที่พลาดก็มี
แต่การประเมินมูลค่าหุ้นในสิ่งที่ไม่มีความแน่นอนนั้นมีความเสี่ยงอยู่แล้ว อย่างในกรณีของหุ้น Vale S.A. VALE ซึ่งเป็นบริษัทเหมืองเหล็กยักษ์ใหญ่สัญชาติบราซิล ที่บริษัทเองประสบปัญหาบางอย่างจนทำให้ราคาร่วงลงต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี 2011 จากราคากว่า 40 เหรียญต่อหุ้น มาอยู่ที่ประมาณ 10 เหรียญในปี 2014 ซึ่งจุดนี้เอง คุณดาโมดารันก็ได้เข้าลงทุนหุ้น VALE (บริเวณเส้นสีฟ้า) แต่สถานการณ์กลับไม่ได้เป็นไปอย่างที่คิด จนต้องยอมขายขาดทุนที่ราคาประมาณ 5 เหรียญ (บริเวณเส้นสีชมพู) และหลังจากนั้นสองปี ราคาก็กลับไปสูงกว่าจุดที่เคยซื้อเสียอีก
เพราะเหตุนี้
จึงต้องกระจาย
ถึงแม้คุณดาโมดารันจะสามารถทำเงินได้จากหุ้น Apple และหุ้นตัวอื่นอย่างเป็นกอบเป็นกำ แต่ถ้าเขาไม่ได้มีการกระจายความเสี่ยงที่เหมาะสม การต้องเจอกับหุ้น VALE เพียงตัวเดียว ก็อาจส่งผลให้พอร์ตการลงทุนโดยรวมขาดทุน 50% ได้ ซึ่งเรื่องการกระจายความเสี่ยง ก็เป็นสิ่งที่คุณดาโมดารันแนะนำนักลงทุนเสมอ
เพราะการประเมินมูลค่าหุ้น มันมีปัจจัยที่เราไม่รู้อีกมากมาย และการประเมินมูลค่าหุ้น ไม่เคยมีความชัดเจนของข้อมูล 100% อยู่แล้ว
แต่ผลกำไรมากกว่า 100% สามารถเกิดขึ้นได้ ถ้ากระจายความเสี่ยงได้ดี และประเมินมูลค่าหุ้นด้วยวิธีที่เหมาะสม เหมือนกับที่คุณ Aswath Damodaran ได้ทำ
ติดตามความรู้เพิ่มเติมได้ที่ FACEBOOK, LINE, WEBSITE
INVESTING.in.th — Happy Investing
ร้านหนังสือของนักลงทุน
แหล่งอ้างอิง
การประเมินมูลค่าหุ้น : www.investing.in.th/product/61595/การประเมินมูลค่าหุ้น-
SFINANCE GURU: Here's Why I Dumped All My Shares Of Apple : https://www.businessinsider.com/finance-guru-damodaran-dumped-apple-2012-4
No Mas, No Mas! The Vale Chronicles : https://www.benzinga.com/trading-ideas/small-cap-analysis/15/09/5866876/no-mas-no-mas-the-vale-chronicles
How a professor of finance seeks to outperform the market : https://www.theglobeandmail.com/globe-investor/investment-ideas/how-a-professor-of-finance-seeks-to-outperform-the-market/article30192619/
14 ส.ค. 2561
13 พ.ย. 2563
13 พ.ย. 2563