Last updated: 23 ม.ค. 2564 |
สรุปแบบรวบรัด 2 นาที
จะดีแค่ไหน หากเราวิเคราะห์และซื้อหุ้นที่มีคุณภาพดีในราคาที่ไม่แรงมากจนเกินไปได้?
วันนี้ผมขอนำพาทุกคนให้รู้จักกับ Magic Formula กันครับ ผมเห็นอะไรในหุ้นตัวนี้บ้าง มาอ่านกันครับ
Magic Formula เป็นเครื่องมือในการคัดกรองหุ้น โดยมีหลักการคือ “การเลือกซื้อหุ้นที่(มีศักยภาพการทำกำไร)ดี ในราคาที่ไม่แพง” ผ่านการใช้ตัวเลขทางการเงินเพียง 2 ตัว อันได้แก่ค่า ROE และ PE
หลักการนี้ได้รับการถ่ายทอดโดยหนึ่งในผู้ที่ถูกขนานนามว่าเป็น Super Investor แห่ง Graham And Doddsville ผู้จัดการกองทุนผู้คุมเงินลงทุนในกองทุนกว่า 3,000 ล้านเหรียญ นั่นคือ คุณ Joel Greenblatt นักลงทุนหุ้นแบบเน้นคุณค่า แห่ง Gotham Asset Management ซึ่งสามารถทำผลตอบแทนเฉลี่ยทบต้นได้ถึงปีละ 23.8% ตลอด 20 ปี (1988-2008) ได้
ก่อนที่จะรับชมหุ้นที่ผ่านการคัดกรองจากการวิจัยนี้ ผมขอแนะนำให้รู้จักตัวเลขการเงินที่สำคัญคร่าวๆ อย่าง ROE และ PE กันก่อนครับ
อารัมภบทของ ROE
ตัวเลข ROE นั้น เป็นตัวเลขที่บ่งบอกถึงความสามารถในการบริหารจัดการดูแลบริษัทเพื่อให้ได้ผลกำไรตอบแทนสู่ผู้ถือหุ้นให้เกิดประโยชน์มากที่สุด ตามหลักของเศรษฐศาสตร์ทุนนิยม ว่าด้วยการบริหารจัดการทรัพยากรเพื่อก่อให้เกิดผลประโยชน์ที่สุดนั่นเองครับ
หรือกล่าวโดยง่ายคือความสามารถที่บริษัทจะสามารถสร้างกำไรสุทธิมาตอบแทนให้แก่เงินลงทุนของผู้ถือหุ้นนั่นเอง
โดยมีสูตรคำนวณคือ
ref.corporatefinanceinstitute
โดย ROE นั้นยังมีมิติในการวิเคราะห์คุณภาพของการจัดการด้วยครับ โดยแบ่งเป็น 3 มิติ คือ
ref.financestrategists
ว่ากันตามตรงแล้วบริษัทใดที่มีศักยภาพ ROE สูงเท่าไร บริษัทนั้นย่อมมีคุณภาพมากขึ้นเท่านั้นครับ
อารัมภบท PE
หาก ROE เป็นมิติในด้านของคุณภาพแล้ว PE นั้นเป็นมิติในด้านของความถูกแพงของราคา
โดยมีสูตรคำนวณดังนี้ครับ
ref.corporatefinanceinstitute
กล่าวโดยง่ายคือ เราลงทุนบริษัทนี้ไปแล้ว จะต้องรอกี่ปีถึงจะคืนทุน (ในกรณีที่บริษัททำกำไรได้ทำเดิม)
เช่น บริษัทหนึ่ง มีมูลค่าบริษัท (Market Cap.) อยู่ที่ 2,000 ล้านบาท ทำกำไรตอบแทนได้ 100 ล้านบาทต่อปี อัตราส่วน PE ที่ได้ ก็คือ 2,000/100 = 20 เท่า นั่นเองครับ
กลับมาสู่ Magic Formula
Magic Formula จะเข้ามาช่วยในการซื้อหุ้นที่ดี ในราคาที่ไม่แพงเกินไป โดยมีรายละเอียดเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ทั้งสิ้น 3 ขั้นตอนครับ
1) จัดอันดับ พร้อมให้คะแนนแก่หุ้นที่มี ROE จากลำดับดีที่สุดถึงแย่ที่สุด (โดยตัวที่ดีที่สุดเราจะให้ 1 คะแนน และลดหลั่นกันไปตามอันดับ) และ PE จากถูกที่สุดถึงแพงที่สุด (โดยตัวที่น้อยที่สุดเราจะให้ 1 คะแนน และลดหลั่นกันไปตามอันดับเช่นเดียวกับกรณีของ ROE ครับ)
2) นำคะแนน ROE และ PE ของหุ้นแต่ละตัว นำมารวมกันและหารด้วย 2 เพื่อให้ได้ค่าคะแนนกลาง
3) จัดเรียงลำดับ คะแนนที่ได้จากข้อที่ 2) จากน้อยไปหามาก
และลิสต์รายชื่อหุ้นทั้ง 30 อันดับครับ
จุดบอดของ Magic Formula
ว่ากันตามตรงแล้ว ค่าของ Magic Formula ที่เราได้นั้นอาจยังไม่มีประสิทธิภาพมากเพียงพอ เนื่องจากเราอาจถูกลวงหลอกโดยตัวเลขกำไรจากผลประกอบการที่ไม่ได้มาจากการดำเนินงานก็เป็นได้ครับ อาทิ รายได้พิเศษจากการได้รับเงินประกันตอบแทน กำไรจากการขายที่ดิน กำไรจากการขายเงินลงทุนอื่น ฯลฯ นั่นเองครับ
ดังนั้นแล้ว ทางเราเลยมีสิ่งดีๆ มานำเสนอ
Magic Formula ฉบับปรับปรุง for Investing
เราเลยมีการปรับเปลี่ยนปรับปรุงขั้นตอนของ Magic Formula ให้มีเสถียรภาพมากขึ้นได้จากการลองถัวเฉลี่ยตัวเลข ROE โดยการนำตัวเลข ROE 5 ปีที่แล้ว จากนั้นก็มาหาค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี เพื่อให้ได้ตัวเลขที่ไม่เหวี่ยงมากเกินไปนั่นเองครับ
ถึงแม้ว่าวิธีนี้จะทำให่หุ้นที่เพิ่งจดทะเบียนยังไม่ถึง 5 ปี ไม่ติดอันดับ แต่อย่างน้อยเราก็ได้หุ้นที่มีกระจกหลังก็ยังดี ซึ่งวิธีการนี้ก็เหมาะกับนักลงทุนสายอนุรักษ์นิยมที่ต้องการความแน่นอนด้วยนั่นเองครับ
ผลการวิจัยที่ได้
***ROE ปีล่าสุด คำนวณมาจาก TTM 4 ไตรมาสย้อนหลัง อันได้แก่ (Q1-Q3 2020 และ Q4 2019)
NO. | Symbol | Market | Sector | P/E (30/12/2020) | Average ROE 5 Year |
1 | ORI | SET | PROP | 6.38 | 41.11261 |
2 | NOBLE | SET | PROP | 6.72 | 29.27405 |
3 | BROOK | mai | FINCIAL | 3.89 | 22.65838 |
4 | MCS | SET | STEEL | 6.52 | 26.12328 |
5 | SPCG | SET | ENERG | 6.88 | 24.56649 |
6 | TIP | SET | INSUR | 7.79 | 23.63581 |
7 | EP | SET | ENERG | 2.96 | 19.70418 |
8 | 2S | mai | INDUS | 5.92 | 20.26168 |
9 | SMPC | SET | PKG | 9.39 | 33.84879 |
10 | PT | SET | ICT | 8.92 | 26.25753 |
11 | SENA | SET | PROP | 3.96 | 18.30013 |
12 | UTP | SET | PAPER | 8.56 | 23.21913 |
13 | FSMART | mai | SERVICE | 10.33 | 43.47345 |
14 | DRT | SET | CONMAT | 8.94 | 22.91063 |
15 | TASCO | SET | CONMAT | 8.03 | 20.33682 |
16 | SF | SET | PROP | 5.29 | 15.54002 |
17 | S11 | SET | FIN | 8.69 | 20.83956 |
18 | MBAX | mai | INDUS | 7.33 | 17.69183 |
19 | THIP | SET | PKG | 8.08 | 18.85897 |
20 | AP | SET | PROP | 5.47 | 14.86937 |
21 | GC | SET | PETRO | 9.6 | 22.3796 |
22 | TCAP | SET | BANK | 3.48 | 13.40976 |
23 | SUTHA | SET | PETRO | 6.43 | 14.1847 |
24 | LALIN | SET | PROP | 5.66 | 13.78804 |
25 | SGP | SET | ENERG | 8.42 | 15.96843 |
26 | ASK | SET | FIN | 8.65 | 16.28536 |
27 | SPALI | SET | PROP | 9.45 | 18.3709 |
28 | SWC | mai | INDUS | 11.19 | 24.00515 |
29 | PSH | SET | PROP | 7.26 | 13.72833 |
30 | KKP | SET | BANK | 7.69 | 13.92666 |
สถิติที่น่าสนใจหลังการวิจัย
สิ่งที่น่าสนใจที่ผมได้รับจากการวิจัย คือ จำนวนหมวดอุตสาหกรรมที่มีมากที่สุดจากการกรองนี้
โดยอุตสาหกรรมที่มีมากที่สุดคือ หมวดอสังหาริมทรัพย์ รวมทั้งสิ้น 8 บริษัท
รองลงมาคือ หมวดพลังงานและสินค้าอุตสาหกรรม อย่างละ 3 บริษัท
ตามมาด้วย หมวดธนาคาร วัสดุก่อสร้าง สินเชื่อ ปิโตรเคมี และบรรจุภัณฑ์ อย่างละ 2 บริษัท
ส่วนที่เหลือจะเป็นหมวดอุตสาหกรรมที่มีเพียงแค่บริษัทเดียว ได้แก่ กลุ่ม เหล็ก,บริการ,กระดาษ,ประกัน และธุรกิจการเงิน(MAI)
ซึ่งนับว่ามีการกระจุกตัวในหมวดอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์มาก ดังนั้นแล้ว เราควรเลือกตัวที่โดดเด่นและมี Upside มากที่สุดจะดีมากครับ โดยการหา Upside นั้นก็ขึ้นอยู่กับกระบวนการประเมินมูลค่าบริษัทตามแต่ที่ท่านผู้อ่านถนัดเลยครับ
สรุปรวบยอด
ก็จบไปเป็นที่เรียบร้อย สำหรับการนำเสนองานวิจัย Magic Formula ฉบับปรับปรุงที่ทางเราได้นำเสนอมา ณ ที่นี้ หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อการลงทุนในปี 2021 ปีแห่งวัวทองกันนะครับ
ยาวหน่อย แต่ถ้าคุณชอบ ผมก็ดีใจนะครับ
สวัสดีปีใหม่ครับ
18 มิ.ย. 2564
11 พ.ค. 2565
2 มี.ค. 2564