Last updated: 2 มี.ค. 2564 |
การเล่นหุ้นที่ดีคือรู้ว่าจะขาดทุนเท่าไหร่
มองการเทรดให้เหมือนกับการทำธุรกิจ
ทุกวันในตอนเช้าก่อนตลาดเปิด ผมจะจัดการประชุมส่วนตัวขึ้นเองหน้าเครื่องคอมพิวเตอร์
ก่อนที่จะเทรดทุกครั้ง ผมจะพูดออกมาว่า “สวัสดีครับผมชื่ออเล็กซ์ และผมเป็นเทรดเดอร์ผู้พ่ายแพ้ ผมเคยขาดทุนมาก่อนและผมมักจะเผลอทำเรื่องแย่ๆ ที่มักลงเอยด้วยการขาดทุนเสมอ เป้าหมายหนึ่งเดียวของผมวันนี้ คือ ทำอย่างไรก็ได้ที่จะไม่ขาดทุน”
เมื่อตลาดเปิดทำการ ผมเริ่มต้นการเทรดไปตามปกติ และทำทุกอย่างตามแผนการเทรดที่วางไว้ก่อนหน้านี้
หลายครั้งที่ผมเล่าเรื่องให้คนอื่นฟัง มักจะมีคนโต้แย้งสิ่งที่ผมแนะนำอยู่เสมอ
บางคนแย้งว่า จะเป็นไปได้อย่างไรที่จะไม่ขาดทุน เราไม่มีทางที่จะเทรดได้กำไรทุกครั้ง ทุกวันอย่างแน่นอน ถ้าเข้าซื้อหุ้นแล้วราคาร่วงลง หรือหากเข้าเปิดสถานะขายแล้วราคาพุ่งสูงขึ้นเล่า จะทำอย่างไร
ก่อนที่ผมจะอธิบายอย่างอื่นต่อไป ผมขอฉายภาพให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างการขาดทุน และความเสี่ยงปกติทางธุรกิจให้ทุกคนเข้าใจสักนิด
ความเสี่ยงธุรกิจ คือ การหดหายไปเล็กน้อยของเงินลงทุน ซึ่งเป็นจำนวนเงินไม่มากและเกิดขึ้นชั่วคราว
ส่วนการขาดทุน เป็นการสูญเสียเงินลงทุนก้อนโตในระดับที่มากกว่าความเสี่ยงปกติทางธุรกิจอยู่หลายเท่าตัว
ผมในฐานะเทรดเดอร์มืออาชีพซึ่งทำธุรกิจเกี่ยวกับการเทรด ดังนั้น ผมจำเป็นต้องแบกรับความเสี่ยงปกติทางธุรกิจให้ได้ แต่จะไม่ยอมเสี่ยงขาดทุนย่อยยับอย่างแน่นอน
สมมติว่าเราเปิดร้านขายผลไม้อยู่ในตลาดสด ความเสี่ยงตามปกติในธุรกิจนี้ย่อมเกิดขึ้นทุกครั้งที่เราสั่งผลไม้เข้ามาขาย ผลไม้อาจจะขายได้ไม่หมดและเน่าเสียไปบ้าง นี่คือสิ่งที่เรียกว่า “ความเสี่ยงปกติของธุรกิจ” ซึ่งเกิดขึ้นในการดำเนินกิจการตามปกติและไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้
แต่ตราบใดที่เรายังเลือกซื้อผลไม้อย่างรอบคอบ และคอยควบคุมให้ปริมาณผลไม้เน่าเสียอยู่ในสัดส่วนน้อยเมื่อเทียบกับยอดขายทั้งหมดได้ ธุรกิจขายผลไม้ของเราจะยังคงสามารถทำกำไรได้ในระยะยาว
หากแต่ว่าวันหนึ่ง บังเอิญมีรถบรรทุกผลไม้จากต่างถิ่นวิ่งเข้ามาเร่ขายผลไม้สีสันแปลกตา คนขับรถร้องตะโกนเร่ขายเหมาผลไม้นั้นทั้งคันรถในราคาที่ดูไม่แพงมากนัก แถมหว่านล้อมว่า หากขายผลไม้ต่างถิ่นนี้ได้ทั้งหมด เราจะได้กำไรมากกว่าผลไม้ที่เคยขายอยู่ก่อนหน้านี้หลายเท่า ซึ่งฟังดูเป็นเรื่องที่น่าสนใจ
แต่หากลูกค้าประจำของเราไม่ชอบเจ้าผลไม้ต่างถิ่นพวกนี้และไม่มีใครยอมซื้อเล่า นั่นแปลว่า ผลไม้ที่เราทุ่มทุนซื้อมาทั้งคันรถจะต้องเน่าเสียไปทั้งหมด และทำให้เราต้องขาดทุนย่อนยับ
ความเสียหายเช่นนี้ไม่ใช่ความเสี่ยงในระดับปกติของธุรกิจ และนี่คือสิ่งที่ผมเรียกว่า “การขาดทุน”
หลักการบริหารจัดการเงินทุน จะช่วยให้เทรดเดอร์สามารถแบ่งแยกให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างความเสี่ยงปกติของธุรกิจและการขาดทุนอย่างชัดเจน
จากหนังสือ ห้องเทรดของผม
สั่งซื้อหนังสือ
เริ่มต้นสู่การเป็นเทรดเดอร์อย่างถูกวิธี เพราะการเทรดที่ดีไม่ได้มีแค่กดซื้อขาย
“Come Into My Trading Room”
ห้องเทรดของผม
สั่งจองได้ที่ http://bit.ly/ComeInto
สั่งซื้อหนังสือเล่มอื่นเพิ่มเติมได้ที่
www.INVESTING.in.th
ร้านหนังสือของนักลงทุน
28 ม.ค. 2566
27 ม.ค. 2566
31 ม.ค. 2566